อดีตทหารวัย 70 ปี ที่ชุมพร ขี่จยย.ออกจากซอย ถูกรถพ่วงบรรทุกน้ำมันชนแล้วลากข้ามสะพานร่างแหลก โชเฟอร์คู่กรณีบอก เห็นในระยะกระชั้นชิด ทั้งเบรกทั้งหักหลบแล้วแต่ไม่พ้น ขณะที่ชาวบ้านตาดี เล็งไปเห็นทะเบียนรถ 3 ตัวหลัง เป็นเลขเดียวกัน
ร.ต.อ.วุฒิพงษ์ ทองมาก รอง สว.(สอบสวน)สภ.เมืองชุมพร ได้รับแจ้งเหตุจากสมาชิกหน่วยกู้ภัยสายชลมูลนิธิชุมพร
รถบรรทุกน้ำมันชนรถจักรยานยนต์มีผู้เสียชีวิต บนถนนสายช่อง 5-บ่อนไก่ หมู่ 9 ตำบลบางลึก อ.เมือง จ.ชุมพร จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ หน่วยกู้ชีพ กู้ภัยสายชลชุมพร
ที่เกิดเหตุเป็นถนนสี่ช่องจราจร เส้นทางลัดจากถนนเพชรเกษมเขต อ.ท่าแซะเข้าสู่ตัวเมืองชุมพร บริเวณทางแยกหัวสะพานคู่ขนาดข้ามคลองหัววัง-พนังตัก แก้มลิงหนองใหญ่
พบรถพ่วง 22 ล้อ บรรทุกถังน้ำมันขนาดใหญ่ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ทะเบียน 64-4651 ทะเบียนพ่วง 64-4652 กรุงเทพมหานคร ของบริษัท จีไอ กรีน ปาล์ม ออย จำกัด จอดอยู่บนหัวสะพานถนนฝั่งขาออก ที่ใต้กันชนด้านหน้ารถพ่วงพบรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีดำ-ขาว ทะเบียน กขฉ 516 ชุมพร สภาพพังยับเยิน
ตรวจสอบพบศพชายสูงอายุ ทราบชื่อ จ.ส.อ.ไกรเดช หะรังศรี อายุ 70 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99/8 หมู่ 9 ตำบลนาชะอัง อ.เมือง จ.ชุมพร ถูกล้อรถบรรทุกพ่วงทับอยู่ใต้ท้องมีบาดฉกรรจ์แผลเหวอะหวะ ชิ้นส่วนอวัยวะฉีกขาดอยู่บนถนน และชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ถูกชนจนแตกกระจายทั่วบริเวณ
ส่วนคนขับรถบรรทุกน้ำมัน ทราบชื่อ นายสุพจน์ รักกิจ อายุ 51 ปี ยืนหลบอยู่ข้างทางห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 10 เมตร เพื่อรอพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ
จุดเกิดเหตุบนถนนเลนขาเข้าก่อนถึงสะพานข้ามคลอง มีรอยล้อรถบรรทุกน้ำมันเบรกไหม้ดำเป็นทางยาวก่อนถึงจุดชนประมาณ 20 เมตร และรอยลากรถจักรยานยนต์กับศพผู้ตายข้ามสะพานฝั่งขาออกอีกประมาณ 15 เมตร ตำรวจได้บันทึกภาพและวัดระยะทางการชนเก็บไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวน นายสุพจน์ รักกิจ คนขับรถบรรทุกน้ำมันให้การว่าได้บรรทุกน้ำมัน B 100 เกือบ 4 หมื่นลิตร มาจากบริษัท ในพื้นที่ อ.ท่าแซะ จะไปส่งที่คลังน้ำมันตำบลหาดทรายรี อ.เมืองชุมพร ขณะขับรถมาในช่องทางเลนซ้ายฝั่งขาเข้าตัวเมืองชุมพร ถึงที่เกิดเหตุได้มีรถจักรยานยนต์ขับพุ่งออกมาจากซอยถนนเลียบคลองหัววัง-พนังตัก
เพื่อจะข้ามไปยังถนนซอยที่อยู่อีกฝั่งถนน ตนเห็นและกดแตรดังลั่นพร้อมกับเบรกและหักหลบ แต่รถจักรยานยนต์ยังขับออกมาทำให้พุ่งชนเข้าอย่างจังเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตดังกล่าว ส่วนสาเหตุที่แท้จริง เจ้าหน้าที่จะสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเกิดเหตุได้มีบรรดาชาวบ้านมามุงดูเหตุการณ์จำนวนมาก และหลายคนได้สังเกตเห็นเลขทะเบียนหน้ารถพ่วงบรรทุกน้ำมัน หมายเลขทะเบียน 64-4651 กรุงเทพมหานคร และรถจักรยานยนต์ หมายทะเบียน กขฉ 516 ชุมพร ที่ถูกทับอยู่ใต้กันชนด้านหน้ารถพ่วง